คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) |
เปิดใช้งานตลอด |
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies) |
|
เอกสารฉบับบนี้นำเสนอรายละเอียดการบูรณะซ่อมแซมพระแท่นบรรทม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ในลักษณะการบูรณะซ่อมแซม. เพื่อการศึกษา เพื่อการอนุรักษ์และจัดแสดงแบบสำนักช่างสิบหมู่ ด้วยหลักฐานที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงและสมมุติฐานโดยคำนึงถึงรูปแบบเดิมของพระแท่นบรรทมที่มีลักษณะงานช่างโบราณลงรักปิดทองประดับกระจก ทาชาดรวมถึงงานช่างสนะไทยเป็นงานที่เกี่ยวกับงานผ้าอาภรณ์ภัณฑ์ในการจัดทำผ้าดาดหลังคาและผ้าขลิบลายทองของพระแท่นบรรทมอันเป็นรูปแบบงานประณีตศิลป์ไทยที่ถ่ายทอดฝีมือและศิลปะเชิงช่างแบบโบราณจากอดีตจนถึงปัจจุบันให้กลับคืนสภาพอดีตดั่งแรกสร้าง เพื่อเป็นการสืบทอดองค์ความรู้งานครูช่าง พัฒนาศักยภาพบุคลากรของสำนักช่างสิบหมู่ให้เกิดความเชี่ยวชาญทางด้านการบูรณะซ่อมแซมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุอย่างถูกต้องเหมาะสม และสอดคล้องกับภารกิจหลักขององค์กร โดยสำนักช่างสิบหมู่เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรมีหน้าที่ในการทำนุบำรุงรักษาสืบทอด และเผยแพร่ความรู้อันเนื่องด้วยมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ และสะดวกในการสืบค้นข้อมูลต่อไปในอนาคต สำนักช่างสิบหมู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารองค์ความรู้การบูรณะซ่อมแซมพระแท่นบรรทม รัชกาลที่ ๔ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ฉบับนี้จะเป็นแนวทางการบูรณะซ่อมแซมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในลักษณะการซ่อมงานอนุรักษ์แบบสำนักช่างสิบหมู่และเป็นประโยชน์ทางการศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจได้ไม่มากก็น้อย หากเอกสารองค์ความรู้การบูรณะซ่อมแซมพระแท่นบรรทมฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใดสำนักช่างสิบหมู่ ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะและจะนำมาปรับปรุงเอกสารให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป
เนื่องในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ณ วัดอัมพวันเจติยาราม ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ในการนี้สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดสร้างตาลปัตร จำนวน ๑๐ เล่ม โดยมีกลุ่มจิตรกรรมเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเขียนสีตาลปัตร กลุ่มประณีตศิลป์ดำเนินการจัดสร้าง ชุดฐาน ด้ามตาลปัตร และนมตาลปัตรโลหะ ร่วมบันทึกข้อมูลจัดทำสื่อสำหรับเผยแพร่โดย ศูนย์ศิลปะและการช่างไทย
บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทย ณ พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ถือเป็นศิลปวัตถุชิ้นสำคัญที่มีคุณค่ายิ่งในประเทศไทย เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๘ สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระยาโชฏึกราชเศรษฐี (จ๋อง) สั่งทำบานประตูและบานหน้าต่างประดับมุกอันเป็นศิลปะของประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาประดับไว้ภายในพระวิหารหลวง และได้มีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า บานไม้ประดับมุกในพระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐฯ เป็นของที่ผลิตขึ้นจากเมืองท่านางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองเดียวในประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตงานประดับมุกในลักษณะนี้ในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับที่สร้างพระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐฯ ทางวัดราชประดิษฐฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของศิลปวัตถุชิ้นสำคัญนี้ มีความประสงค์ต้องการให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการซ่อมแซมบานประตูและบานหน้าต่างประดับมุกอันเป็นศิลปะของประเทศญี่ปุ่นที่ชำรุดเสียหายทั้งหมด จึงได้จัดตั้งโครงการอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทย ณ พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐฯ ขึ้น โดยมีหน่วยงานภายในกรมศิลปากร อาทิเช่น สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำนักช่างสิบหมู่ สำนักสถาปัตยกรรม สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ร่วมกันดำเนินงานมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔