คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) |
เปิดใช้งานตลอด |
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies) |
|
จากหลักฐานที่ปรากฏทางประวัติศาสตร์สมัยโบราณถึงสมัยกลาง ยืนยันได้ว่ามนุษย์ รู้จักวิธีการหลอมโลหะ และการทำแบบหล่อ เพื่อผลิตชิ้นงานหล่อมาใช้งาน ดังเช่น เมื่อประมาณ 5,000 ปี มนุษย์ได้ผลิตงานหล่อเป็นหัวขวาน ที่ทำจากทองแดงโดยวิธีการหลอมและเทลงในแบบที่ขุดลงในหินทราย และต่อมามีการพัฒนาโดยการทำไส้แบบ และ การทำแบบเป็นสองชั้น การหล่อบรอนซ์นั้นกระทำกันครั้งแรกในเมโสโปเทเมีย ประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตศักราช และเทคนิคนี้ได้รับการถ่ายทอดมาสู่เอเชียกลาง อินเดีย และจีน มาถึงจีนประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตศักราช ในประเทศจีนสมัย ยิน ประมาณ 1,500-1,000 ปี ก่อนคริสตศักราช ก็ได้มีการหล่อภาชนะที่มีขนาดใหญ่ๆและคุณภาพดีได้สำเร็จการถ่ายทอดเข้าไปสู่ยุโรปประมาณ 1,500-1,400 ปีก่อนคริสตศักราช โดยผลิตเป็น ดาบ หัวหอก เครื่องประดับ ภาชนะต่างๆและเครื่องตกแต่งที่ใช้ในงานศพเป็นต้น กลุ่มประเทศที่ผลิตงานหล่อในยุคนั้น คือ สเปญ สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมันนี ออสเตรีย นอร์เวย์ เดนมาร์ค สวีเดน อังกฤษ และ ฝรั่งเศส
คำว่า “ลวดลายของชาติไทย” นี้เมื่อฟังดูผิวเผินแล้วจะเห็นว่ายืดยาวเกินไป แต่ความจริงเป็นคำที่ถูกต้องที่สุดเพราะจะหาคำอื่นมาแทนไม่ได้ แต่เป็นลักษณะของคนไทยอย่างหนึ่งที่ชอบพูดตัดคำให้สั้น เพื่อจะได้รวดเร็วขึ้นในเวลาพูด จึงเรียกใหม่ว่า “ลายไทย” ทำให้คนรุ่นหลังน้อยคนไม่ทราบถึงรูปของคำเดิมเลย บางคนก็เลยเหมาเอาว่าขึ้นชื่อด้วยการเขียนสลับยอด หรือลักษณะเปลวไฟแล้วเป็นลายไทยทั้งนั้น เพราะทั้งนี้ผู้ที่แยกไม่ออกและไม่ทราบว่าคำว่า “ลายไทย” ที่ตัดมาจากคำว่า “ลวดลายของชาติไทย” นั้นโบราณอาจารย์ท่านหมายถึงสิ่งประดิษฐ์ ๒ ชนิดรวมกันอยู่ จึงทำให้คุณค่าของความหมายของคำนี้ลดน้อยลงและเลือนไปในที่สุด
อักษร สมเด็จกรมพระยานริศฯ อักษรรูปแบบสมเด็จกรมพระยานริศฯ คือ ลักษณะตัวอักษรที่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้คิดรูปแบบขึ้น ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมาก เพราะเป็นแบบทีใช้เขียน ได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และเหมาะสมกับการเขียนด้วยปากกาสปีดบอลล์ พู่กันแบน และสีเมจิกชนิดปลายตัด หรือที่เรียกว่า อักษรหัวตัด