ลงรักปิดทองครุฑโลหะบรอนซ์ ตราสัญลักษณ์สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ครุฑเทิดพระมหามงกุฎ จำนวน ๔ องค์ ปี ๒๕๕๘
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงฟื้นฟูกลุ่มอาคารอนุรักษ์บริเวณท่าเตียน และมีความประสงค์จะอัญเชิญ สัญลักษณ์ ครุฑเทิดพระมหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขึ้นประดับบนผนังด้านหน้าอาคารอนุรักษ์ บริเวณทางเข้าตลาดท่าเตียน เมื่อบูรณะอาคารแล้วเสร็จ จึงได้ขอความอนุเคราะห์สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรจัดทำ ตราสัญลักษณ์ ครุฑเทิดพระมหาพิชัยมงกุฎ ด้วยวัสดุโลหะบรอนซ์ ลงรักปิดทอง จำนวน ๔ องค์ และวัสดุอะคริลิคเขียนสี ลงรักปิดทอง จำนวน ๔ องค์ ซึ่งมีรูปแบบตามพิมพ์เดิมที่ พลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ได้พิจารณาความเหมาะสมในรูปแบบ และจัดทำให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้ว
- ผู้ได้รับการประเมินได้รับมอบหมายให้ดำเนินการลงรักปิดทองครุฑโลหะบรอนซ์ ตราสัญลักษณ์สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ครุฑเทิดพระมหามงกุฎ จำนวน ๔ องค์
ลักษณะของงาน
- เป็นงานลงรัก “ปิดทองทึบ” หมายถึง การปิดทองคำเปลวลงบนงานศิลปวัตถุต่างๆ ซึ่งสร้างขึ้นด้วย ดินเผา ปูนปั้น ไม้แกะสลัก หรือโลหะหล่อ เพื่อให้ผิวภายนอกของศิลปวัตถุนั้นๆ เป็นผิวทองคำ และเรียบเกลี้ยงทั่วไป ตัวอย่างเช่น พระพุทธรูปปิดทองเป็นพระปฏิมาประธาน เป็นต้น (การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย, ๒๕๔๐: ๑๐๑)
ลักษณะของครุฑ
- วัสดุเป็นโลหะบรอนซ์ มีลักษณะเป็นประติมากรรมลอยตัว ปั้นหล่อขึ้นเป็นสามมิติ มองเห็นรอบด้าน ไม่ติดพื้นหลัง จำนวน ๔ องค์
ครุฑ อมนุษย์จำพวกกึ่งสัตว์กึ่งเทพ ตามคติโบราณสืบเนื่องมาจากศาสนาพราหมณ์ ถือว่าครุฑเป็นใหญ่ที่สุดในบรรดานกทั้งหลาย มีรูปร่างลักษณะครึ่งนกครึ่งคน คือมีหัว ปีก เล็บ และปากเหมือนนกอินทรี ตัวและแขนเหมือนคน หน้าขาว ปีกแดง ตัวเป็นสีทอง หน้าตาท่าทางดุร้าย เครื่องประดับที่สวมมี มงกุฎยอดน้ำเต้า สร้อยคอ พาหุรัด ทองกร และกำไล นุ่งผ้าชายเฟือยมีห้อยหน้าลงมา ไม่สวมเสื้อ
ครุฑอาศัยอยู่บนต้นงิ้ว ส่วนพญาครุฑอาศัยอยู่บนวิมานสวยงาม ชื่อว่า “วิมานฉิมพลี” ครุฑเป็นนกที่บินได้เร็วไม่มีสัตว์อื่นเทียบ คือบินได้กวักละโยชน์ ที่อยู่ของครุฑเป็นสถานที่ลี้ลับจึงยากที่ใครจะไปได้ถึง
ถือกันว่าครุฑเป็นสัตว์สำคัญ มีฤทธานุภาพมาก เพราะตามคติพราหมณ์ที่ตกมาถึงไทยเชื่อว่าพระมหากษัตริย์คือพระผู้เป็นเจ้าอวตารลงมาเกิดเพื่อทรงปราบทุกข์เข็น ครุฑซึ่งเป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ จึงได้รับการยกย่องนำมาทำเป็นภาพเขียน ปั้น แกะสลักตามจินตนาการของช่าง ดังจะพบภาพครุฑประดับตามวัดวาอาราม สถานที่สำคัญของทางราชการ สิ่งของเครื่องใช้สำหรับองค์พระมหากษัตริย์ สิ่งของของแผ่นดิน เช่น รถหลวง เรือหลวง ฯลฯ รวมทั้งธงที่สำคัญ เช่น ธงมหาไชยธวัช ธงมหาราช อันเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ หนังสือสำคัญของทางราชการ ดวงตราพระราชลัญจกร ล้วนแต่ทำเป็นตรารูปครุฑติดไว้ เพื่อแสดงว่าพระมหากษัตริย์คือสมมุติเทพนั่นเอง (ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๐: ๑๓๘-๑๓๙)
ครุฑพ่าห์ เครื่องหมายรูปครุฑมีลักษณะเป็นรูปครุฑตัวเดียว มือกางอยู่ในท่ารำแบบครุฑนารายณ์ทรงของเขมร เป็นแบบที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ทรงเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้เป็นตราประทับกำกับพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหนังสือสำคัญทั่วไปมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังใช้กับสิ่งอื่น เช่น ธงพระครุฑพ่าห์ คือธงที่มีรูปครุฑ (ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๐: ๑๔๐)