คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) |
เปิดใช้งานตลอด |
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies) |
|
๑. ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าเวลาปฏิบัติงาน ในเวลาที่ต้องทำการตรวจดูว่ารักที่ทาแห้งหรือไม่ ไม่สามารถตรวจสอบได้ทันที
๒. การทำงานรักกับชิ้นงานที่เป็นพื้นโลหะ จะแห้งช้ากว่าบนพื้นไม้หรือปูน เพราะพื้นโลหะไม่สามารถดูดซึมรักได้เหมือนพื้นไม้และพื้นปูน
๓. ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดเพื่อที่จะควบคุมความชื้น และ มีฝุ่นละลอกที่น้อย
เป็นที่เคารพสักการะของผู้บริหาร ข้าราช เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์ราชการ และประชาชนทั่วไปที่มาติดต่อราชการ
ขั้นตอนการสำรวจก่อนเริ่มงาน
เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
ขั้นตอนการลงรักปิดทอง
งานลงรักปิดทอง คือ การทายางรักบนพื้นผิวของศิลปวัตถุหลายครั้งให้ได้พื้นผิวที่อิ่มตัว แล้วปิดทับด้วยทองคำเปลว ๑๐๐% จนทั่วทั้งพื้นผิว ทำให้ได้พื้นผิวทองสุกปลั่ง คล้ายทำด้วยทองคำจริงๆ
วัสดุที่ใช้ในการปิดทอง
ยางรัก คือ ยางจากไม้ยืนต้น ตระกูล Anacardiaceae มักพบในป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ ชาวล้านนาเรียกว่า “ฮัก” หรือ “ฮักหลวง” มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Melanorrhoea usitata นอกจากนี้ยังมีต้นรักในตระกูล Anacardiaceae ทั้ง ๓ ชนิดนี้มีเปลือกแข็งให้ปริมาณน้ำยางน้อย คุณภาพของน้ำยางต่ำกว่า “ฮักหลวง” และยังมีพิษที่รุนแรงกว่า ทำให้เกิดผื่นคัน มีอาการบวมเป็นแผลหนองมากน้อยตามที่ได้รับจากการสัมผัส
รักสมุก คือ การนำเอายางรักมาผสมกับผงถ่าน (ที่นิยมใช้จะเป็นผงถ่านกะลา ผงถ่านใบตอง ผงถ่านดินหรือผงชัน) ผสมเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียวจนเหนียวเหมาะแก่การโป๊ขัดแต่ง
เทือกรัก คือ การนำเอายางรักมาผสมกับผงถ่าน (รักสมุก) ผสมเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียวกันแต่มีความเหลวเหมาะแก่การทาเพื่อให้มีเนื้อรัก
ขั้นตอนการลงรักปิดทอง
๑. นำผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดล้างทำความสะอาด ทิ้งให้แห้ง จากนั้นนำแอลกอฮอล์ มาขัดล้างทำความสะอาดในส่วนที่เป็นลวดลายและผิวเรียบในส่วนต่างๆของ องค์พระพรหม
๒. ทารักจีนในส่วนที่เป็นลวดลายและผิวเรียบในส่วนประกอบต่างๆขององค์พระพรหม พระพิฆเนศวร และ พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทิ้งให้แห้งสนิทประมาณหนึ่งสัปดาห์
ภาพสำเร็จหลังทารักจีน
๓. นำรักจีนและรักน้ำเกลี้ยง มากรองด้วยผ้าซิ่นสกรีน จากนั้นผสมให้เข้ากันในอัตราส่วน 1:1 ทาใน ส่วนที่เป็นลวดลายทิ้งให้แห้งสนิทประมาณสองสัปดาห์
๔. ผสมรักเทือก ( รักเหลว ) โดย ใช้รักน้ำเกลี้ยง 5 ส่วน สมุกกะละ 2 ส่วน ชันเล็กน้อย ใช้ทาในส่วนที่มีผิวเรียบขององค์พระพรหม เพื่อป้องกันการหลุดล่อนได้ง่าย ทิ้งให้แห้งสนิทประมาณสองสัปดาห์ ( ในส่วนนี้พบปัญหา รักแห้งช้า เพราะไม่ได้ทารักจีนผสมรักไทย ในรอบที่ 2 ในส่วนที่เป็นผิวเรียบ ก่อนที่จะทารักเทือก ทำให้เนื้อรักที่รองพื้นมีปริมาณน้อยเกินไปทำให้รักเทือกแห้งช้า ฉะนั้นรอบ2 ควรทารักไทยจีนในอัตราส่วนเท่าๆกัน เพื่อที่จะเป็นพื้นทำให้รักเทือนที่จะทารอบต่อไปแห้งเร็วขึ้น)
๕. นำรักน้ำเกลี้ยง มากรองกลางแดด เพื่อให้รักไหลเร็วยิ่งขึ้น ก่อนนำมาทาลวดลายขององค์พระพรหมเป็นการทารักไทยรอบที่ ๑
๖. ทำการผสมรักไทย 2 ส่วน กะละ 3 – 5 ส่วน ชันเล็กน้อย ใช้สำหรับโป้ว จึงควรมีเนื้อเหนียวเหมาะกับการปาด ทิ้งให้แห้ง 1 สัปดาห์
จากนั้นน้ำผ้าเปียก และถังน้ำมาวางไวใกล้ชิ้นงาน เพื่อเพิ่มความชื้น ช่วยให้รักแห้งเร็วยิ่งขึ้น
๗. ทำการขัดเปิดหน้ารักสมุกที่โป้ว กระดาษทรายเบอร์ 320 มาขัด ด้วยน้ำบริเวณที่เป็นผิวเรียบ จะสังเกตเห็นได้ว่ามีเนื้อสมุกที่ยังแห้งไม่สนิทติดออกมาด้วย การขัดเปิดหน้าสมุกจะช่วยให้รักสมุกแห้งเร็วขึ้น
๘. ทารักไทยทั่วทั้งองค์พระพรหม จากนั้นทิ้งให้แห้ง 2-3 วัน ทารักไทยซ้ำแบบนี้ 3-4 ครั้งจนกว่าผิวรักจะอิ่มเรียบตึง
ทำการขัดเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นจึงทารักน้ำเกลี้ยงที่กรองแล้วเพื่อเตรียมปิดทองในวันถัดไป
๙. ทำการปิดทอง
ขั้นตอนการลงรักปิดทอง ลูกประคำ
1. ทารักจีน ทิ้งไว้ให้แห้ง
2. ทารักไทย ทิ้งไว้ให้แห้ง ทำซ้ำแบบนี้ 2-3 ครั้ง
3. จากนั้นจึงทารักน้ำเกลี้ยงเพื่อเตรียมปิดทองในวันถัดไป